งานชิ้นที่ 5
โครงการวิจัยและพัฒนาการเรียนรู้
โครงการวิจัยและพัฒนาการเรียนรู้
เรื่อง การพัฒนาความกระตือรือร้นในการส่งงานซึ่งเป็นคะแนนเก็บระหว่างภาคเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/4
1. ชื่อเรื่อง การพัฒนาความกระตือรือร้นในการส่งงานซึ่งเป็นคะแนนเก็บระหว่างภาคเรียนของนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 1/4
2. ชื่อผู้วิจัย นางสาวสลาลี โรจน์สุวรรณ
3. สภาพปัญหา
จากการทำรายงานสรุปคะแนนเก็บระหว่างภาคเรียน (ปพ.5) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/4
รายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน 1 พบว่ามีนักเรียนจำนวน 11 คนที่ยังส่งงานไม่ครบซึ่งทำให้ไม่มีคะแนนเก็บในช่องคะแนนงานที่ยังไม่ได้ส่งและอาจเป็นเหตุให้นักเรียนมีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ เป็นผลเนื่องมาจากการขาดความรับผิดชอบ และขาดความกระตือรือร้นในการเรียน
จากปัญหาดังกล่าวผู้วิจัยจึงสนใจที่จะศึกษาการพัฒนาความกระตือรือร้นในการส่งงาน เพื่อให้นักเรียนทั้ง 11 คนนี้มีคะแนนเก็บครบทุกช่อง และเพื่อปลูกฝังคุณลักษณะความกระตือรือร้นให้เกิดขึ้นแก่นักเรียนเอง
จากปัญหาดังกล่าวผู้วิจัยจึงสนใจที่จะศึกษาการพัฒนาความกระตือรือร้นในการส่งงาน เพื่อให้นักเรียนทั้ง 11 คนนี้มีคะแนนเก็บครบทุกช่อง และเพื่อปลูกฝังคุณลักษณะความกระตือรือร้นให้เกิดขึ้นแก่นักเรียนเอง
4. วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อปลูกฝังคุณลักษณะความกระตือรือร้นให้เกิดขึ้นแก่นักเรียนเอง
2. เพื่อให้นักเรียนทั้ง 11 คนนี้มีคะแนนเก็บครบทุกช่องคะแนน
5. สาเหตุ
1. ไม่กล้ามาติดต่ออาจารย์
2. กลัวอาจารย์ดุด่า
3. ไม่เห็นความสำคัญของคะแนนเก็บ
4. ขาดเรียนและไม่ยอมติดตามงานจากเพื่อนหรือครู
6. วิธีดำเนินการวิจัย
1. แจ้งนักเรียนทั้ง 11 คนและเรียกพบเป็นการส่วนตัว
2. อธิบายให้นักเรียนเล็งเห็นถึงความสำคัญของการเรียนและการส่งงานเพื่อมีคะแนนเก็บและบอก
ว่าคะแนนจะสามารถช่วยให้เรามีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ดีขึ้น
3. ให้นักเรียนทำงานที่ค้างส่งมาส่งให้ครบทุกชิ้น
7. ผลการวิจัยพบว่า
นักเรียนทั้ง 11 คน มีคะแนนเก็บครบทุกช่องคะแนน
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
เรื่อง การแก้ปัญหาการปรับตัวเข้ากับเพื่อนของนักเรียนสมาธิสั้นในห้องเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/3
1. ชื่อเรื่อง การแก้ปัญหาการปรับตัวเข้ากับเพื่อนของนักเรียนสมาธิสั้นในห้องเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/3
2. ชื่อผู้วิจัย นางสาวสลาลี โรจน์สุวรรณ
3. ปัญหาและสาเหตุ
โรงเรียนทุ่งสงวิทยาตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ตำบลไสไฟลาม อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็น
โรงเรียนขนาดกลางระดับตำบล ที่รับนักเรียนในเขตพื้นที่และบริเวณใกล้เคียงเข้ามาศึกษาเล่าเรียน โดยนักเรียนที่เข้ามาศึกษาเล่าเรียนก็จะมีทั้งนักเรียนปกติและนักเรียนที่มีปัญหาด้านต่าง ๆ เรียนอยู่ร่วมกัน ผู้วิจัยได้รับมอบหมายให้เป็นครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน 1 ประจำชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/3 ประกอบด้วยนักเรียน 35 คน เป็นชาย 24 คน หญิง 11 คน ในจำนวนนี้มีนักเรียนสมาธิสั้นเรียนร่วมอยู่ด้วย 1 คน เป็นนักเรียนชายซึ่งผู้เรียนจะมีปัญหา เพื่อนรำคาญและรังเกียจ สังเกตจากการแสดงท่าที เช่น ไม่ยอมให้เข้ากลุ่มทำงานด้วย พูดจาด่าว่า สาเหตุมาจากเอมีพฤติกรรมไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม เช่น เดินไปเดินมาในห้องขณะครูสอน หยิบเครื่องมือ/อุปกรณ์ทดลองมาเล่น พูดจาเพ้อเจ้อ อารมณ์ฉุนเฉียว ก้าวร้าว เกเร
4. วิธีการแก้ไข
1. ครูพูดคุยกับนักเรียนในห้องเกี่ยวกับความรู้สึกที่มีต่อนักเรียนสมาธิสั้น พบว่าหลายคนรังเกียจ
และรำคาญ โดยเฉพาะนักเรียนหญิง แต่ก็มีนักเรียนที่เข้าใจและมองเห็นความดีของเอ เช่น ความมีน้ำใจต่อเพื่อนและครู
2. ครูพูดคุยกับนักเรียนให้รับรู้ว่าครูหวังให้นักเรียนทุกคนมีความสุขในการอยู่ร่วมกัน ครูขอความร่วมมือจากเพื่อนทุกคนให้เข้าใจและยอมรับเพื่อนที่มีความแตกต่างจากเรา ขณะเดียวกันครูก็แสดงพฤติกรรมให้นักเรียนทุกคนเห็นว่าครูยอมรับเอ เช่น การพูดคุยด้วยความยินดีกับเอ สนับสนุนให้คำชมเชยเมื่อเอแสดงความมีน้ำใจกับเพื่อนและครู 3. ครูให้คำแนะนำเอเป็นการส่วนตัวเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เป็นปัญหาพร้อมตกลงเกี่ยวกับการปฏิบัติตนในห้องเรียน การใช้เครื่องมือ/อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ เมื่อเอปฏิบัติตามข้อตกลง ครูให้คำชมเชยและให้ความสนิทสนมกับเอมากขึ้น เช่น การพูดคุยเรื่องส่วนตัว
2. ครูพูดคุยกับนักเรียนให้รับรู้ว่าครูหวังให้นักเรียนทุกคนมีความสุขในการอยู่ร่วมกัน ครูขอความร่วมมือจากเพื่อนทุกคนให้เข้าใจและยอมรับเพื่อนที่มีความแตกต่างจากเรา ขณะเดียวกันครูก็แสดงพฤติกรรมให้นักเรียนทุกคนเห็นว่าครูยอมรับเอ เช่น การพูดคุยด้วยความยินดีกับเอ สนับสนุนให้คำชมเชยเมื่อเอแสดงความมีน้ำใจกับเพื่อนและครู 3. ครูให้คำแนะนำเอเป็นการส่วนตัวเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เป็นปัญหาพร้อมตกลงเกี่ยวกับการปฏิบัติตนในห้องเรียน การใช้เครื่องมือ/อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ เมื่อเอปฏิบัติตามข้อตกลง ครูให้คำชมเชยและให้ความสนิทสนมกับเอมากขึ้น เช่น การพูดคุยเรื่องส่วนตัว
5. ผลการแก้ไข
ผลจากการแก้ไขพบว่าเมื่อเวลาผ่านไป เอสามารถปรับตัวได้ดีขึ้นทีละน้อย เอรู้จักระงับอารมณ์
ตนเองในการแสดงพฤติกรรมมากขึ้น เช่น เดินไปเดินมาในห้องขณะครูสอนน้อยลง ไม่หยิบเครื่องมือ/อุปกรณ์ทดลองมาเล่น เพื่อน ๆ แสดงการยอมรับและไม่มีใครมีท่าทีรังเกียจ แต่การมีอารมณ์ฉุนเฉียว ก้าวร้าว เกเร ยังคงมีอยู่บ้าง ซึ่งต้องดำเนินการช่วยเหลือแก้ไขต่อไป
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
เรื่อง การแก้ปัญหานักเรียนอ่านชื่อธาตุในตารางธาตุไม่ถูกต้อง
1.
ชื่อเรื่อง
การแก้ปัญหานักเรียนอ่านชื่อธาตุในตารางธาตุไม่ถูกต้อง
การแก้ปัญหานักเรียนอ่านชื่อธาตุในตารางธาตุไม่ถูกต้อง
2.
ชื่อผู้วิจัย
นางสาวสลาลี โรจน์สุวรรณ
นางสาวสลาลี โรจน์สุวรรณ
3.
ปัญหา
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
5/2 จำนวน 48
คน เป็นชาย 14
คน หญิง 34
คน อ่านชื่อธาตุในตารางธาตุไม่ถูกต้อง
4.
สาเหตุ
1.
ไม่ได้รับการฝึกให้อ่านชื่อธาตุ
2.
นักเรียนไม่รู้ว่าเป็นชื่อธาตุอะไร
3.
นักเรียนอ่านไม่ออกว่าชื่อธาตุอะไร
4.
ครูที่เคยสอนมาไม่ได้เน้นให้อ่านชื่อธาตุ
5.
วิธีการแก้ปัญหา
ใช้ใบความรู้
เรื่อง 20 ธาตุพื้นฐานในตารางธาตุที่ควรรู้จัก
1.
ให้นักเรียนฝึกเขียนสัญลักษณ์ธาตุและชื่อธาตุจากใบความรู้
เรื่อง 20 ธาตุพื้นฐานในตารางธาตุ
ที่ควรรู้จัก
2. ให้นักเรียนฝึกอ่านสัญลักษณ์ธาตุและชื่อธาตุทั้ง 20 ธาตุพื้นฐานในตารางธาตุโดยครูเป็นผู้อ่านออกเสียงให้ฟังและให้นักเรียนอ่านออกเสียงตาม
3. ครูให้นักเรียนฝึกท่องจำสัญลักษณ์ธาตุและชื่อธาตุทั้ง 20 ธาตุพื้นฐานในตารางธาตุและกำหนดวันเวลาเพื่อสอบท่องกับครูรายบุคคล โดยครูจะให้คะแนนเพื่อเสริมแรงพร้อมทั้งยกย่องชมเชยนักเรียนที่ท่องจำสัญลักษณ์ธาตุและชื่อธาตุทั้ง 20 ธาตุได้ถูกต้อง ส่วนนักเรียนที่ยังท่องจำไม่ได้ก็เสริมแรงโดยการให้กำลังใจ และให้แก้ไขข้อบกพร่อง ซึ่งมีครูคอยให้คำแนะนำวิธีการและหลักการที่ถูกต้อง
4. ให้โอกาสกับนักเรียนที่ยังท่องจำไม่ได้ได้แก้ตัวโดยให้เวลาไปท่องจำและมาสอบท่องกับครูเป็นรายบุคคลอีกครั้งหนึ่ง
2. ให้นักเรียนฝึกอ่านสัญลักษณ์ธาตุและชื่อธาตุทั้ง 20 ธาตุพื้นฐานในตารางธาตุโดยครูเป็นผู้อ่านออกเสียงให้ฟังและให้นักเรียนอ่านออกเสียงตาม
3. ครูให้นักเรียนฝึกท่องจำสัญลักษณ์ธาตุและชื่อธาตุทั้ง 20 ธาตุพื้นฐานในตารางธาตุและกำหนดวันเวลาเพื่อสอบท่องกับครูรายบุคคล โดยครูจะให้คะแนนเพื่อเสริมแรงพร้อมทั้งยกย่องชมเชยนักเรียนที่ท่องจำสัญลักษณ์ธาตุและชื่อธาตุทั้ง 20 ธาตุได้ถูกต้อง ส่วนนักเรียนที่ยังท่องจำไม่ได้ก็เสริมแรงโดยการให้กำลังใจ และให้แก้ไขข้อบกพร่อง ซึ่งมีครูคอยให้คำแนะนำวิธีการและหลักการที่ถูกต้อง
4. ให้โอกาสกับนักเรียนที่ยังท่องจำไม่ได้ได้แก้ตัวโดยให้เวลาไปท่องจำและมาสอบท่องกับครูเป็นรายบุคคลอีกครั้งหนึ่ง
6.
ผลการแก้ไข
การแก้ปัญหานักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
5/2 จำนวน 48
คน เป็นชาย 14
คน หญิง 34
คน อ่านชื่อธาตุในตารางธาตุไม่ถูกต้องแล้วนำมาฝึกตามขั้นตอนนักเรียนสามารถท่องจำสัญลักษณ์ธาตุและชื่อธาตุในตารางธาตุ 20
ธาตุพื้นฐานได้ถูกต้องและมีความมั่นใจในการอ่านชื่อธาตุมากขึ้น แต่จะมีนักเรียน 3
คนที่ท่องจำธาตุ 20 ธาตุพื้นฐานไม่ได้แต่สามารถอ่านชื่อธาตุจากสัญลักษณ์ธาตุได้ เมื่อดูจากการอ่านชื่อธาตุของนักเรียน มีการพัฒนาการอ่านชื่อธาตุในตารางธาตุดีขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น